วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

วรรณคดี"พระอภัยมณี"

 "พระอภัยมณี"
  
 ท้าวสุทัศน์กษัตริย์แห่งกรุงรัตนา มีมเหสีชื่อนาง ปทุมเกสร มีโอรส ๒ องค์ คือ พระอภัยมณีและศรีสุวรรณ เมื่อพระอภัยมณีอายุได้ ๑๕ ปี ศรีสุวรรณอายุ ๑๓ ปี ได้เดินทางไปเรียนวิชาที่หมู่บ้านประจันตคาม พระอภัยมณีเลือกเรียนวิชาเป่าปี่จนเชี่ยวชาญ ส่วนศรีสุวรรณเลือกเรียนวิชากระบี่กระบอง ท้าวสุทัศน์ขัดเคืองพระทัยว่า โอรสทั้งสองร่ำเรียนวิชาที่ไม่เป็นประโยชน์สำหรับกษัตริย์ จึงขับไล่ออกจากเมือง สองพี่น้องเดินทางไปอย่างไร้จุดหมายปลายทาง ได้พบกับพราหมณ์ ๓ คน คือ พราหมณ์วิเชียร ผู้ชำนาญการยิงธนูคราวละ ๗ ดอก ให้ถูกเป้าหมายอย่างแม่นยำ พราหมณ์โมราสามารถผูกหญ้าให้เป็นสำเภายนต์ได้ และพราหมณ์สานนมีวิชาเรียกลม เรียกฝน จับยามสามตา



ทำนายทายทักโชคชะตาได้ พราหมณ์ทั้งสาม   ขอร้องให้พระอภัยมณีเป่าปี่ให้ฟัง เสียงปี่ทำให้ศรีสุวรรณและพราหมณ์ทั้งสามเคลิ้มหลับไปขณะนั้นนางผีเสื้อสมุทรกำลังหาอาหารอยู่ ได้ยินเสียงปี่อันไพเราะก็ตามเสียงปี่มา เห็นพระอภัยมณีรูปงามก็ถูกใจนึกรัก จึงตรงเข้าอุ้มแล้วพาลงไปอยู่ในถ้ำใต้น้ำ แล้วนางก็แปลงร่างเป็นสาวสวยแก้ไขให้พระอภัยมณีฟื้นจากสลบแล้วเกลี้ยกล่อมให้เป็นสามีของนาง พระอภัยมณีสังเกตดูรู้ว่านางยักษ์ก็นึกกลัวจึงต้องจำยอม ศรีสุวรรณกับพราหมณ์ทั้งสามตื่นขึ้นรู้ว่าพระอภัยมณีหายไปก็เป็นห่วง พราหมณ์โมราจึงใช้ วิชาผูกหญ้าเป็นสำเภายนต์แล้วพากันลงสำเภายนต์ออกตามหาเรื่อยไปจนถึงเมืองรมจักร ซึ่งมีท้าวทศวงศ์เป็นกษัตริย์ปกครองอยู่ พระองค์มีธิดารูปโฉมงดงามมากชื่อนางเกษรา ในระหว่างนั้นท้าวอุเทนได้ยกทัพมาทำสงครามเพื่อชิงนางเกษราไปเป็นมเหสี ศรีสุวรรณกับพราหมณ์ทั้งสามรับอาสาออกไปต่อสู้และได้ชัยชนะ ต่อมาท้าวทศวงศ์จึงจัดพิธีแต่งงานให้ศรีสุวรรณกับนางเกษราและให้ครองเมืองรมจักรแทนพระองค์ 

ทางฝ่ายพระอภัยมณีอยู่กับนางผีเสื้อสมุทรจนมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนชื่อสินสมุทร พระอภัยมณีเห็นว่าลูกชายมีกำลังมากสามารถเปิดแผ่นหินที่ปิดปากถ้ำได้ จึงชวนให้หนีไปด้วยกันขณะที่นางผีเสื้อสมุทรไม่อยู่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเงือกสามพ่อแม่ลูก นางผีเสื้อสมุทรเมื่อรู้ว่าพระอภัยมณีหนีออกจากถ้ำจึงติดตามมาทันแล้วจับเงือกพ่อแม่กินเป็นอาหาร ลูกสาวเงือกรีบพาพระอภัยมณีและ สินสมุทรหนีไปถึงเกาะแก้วพิสดาร โยคีมาพบเข้า จึงช่วยขับไล่นางผีเสื้อสมุทรไปและให้พระอภัยมณีกับสินสมุทรอาศัยอยู่ด้วย ส่วนนางเงือกนั้นโยคีให้ไปอยู่ที่ท้ายเกาะ และนางก็ได้เป็นภรรยาของ พระอภัยมณี ต่อมาพระอภัยมณีนึกเบื่อหน่ายจึงบวชเป็นโยคีพร้อมกับสินสมุทร ท้าวสิลราชกษัตริย์ผู้ครองเมืองผลึกพานางสุวรรณมาลีผู้เป็นธิดาลงเรือเที่ยวทะเล

ขณะเรือแล่นอยู่กลางมหาสมุทรได้เกิดพายุจัดพัดเรือไปถึงเกาะแก้วพิสดาร พระอภัยมณีกับสินสมุทรจึงขอโดยสารเรือกลับบ้านเมืองด้วย ก่อนออกเดินทางพระอภัยมณีได้ไปลานางเงือกซึ่งตั้งครรภ์ได้ ๓ เดือน และฝากแหวนกับปิ่นปักผมไว้ให้ลูกระหว่างเรือแล่นอยู่กลางทะเล นางผีเสื้อสมุทรก็ตามมาทันและอาละวาดจนเรือแตก ท้าวสิลราชจมน้ำสิ้นพระชนม์ สินสมุทรแบกนางสุวรรณมาลีว่ายน้ำหนีไป ส่วนพระอภัยมณีหนีไปอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง นางผีเสื้อสมุทรยังตามไปอีก พระอภัยมณีเห็นจวนตัวจึงสึกจากโยคีแล้วเป่าปี่จนนางผีเสื้อสมุทรขาดใจตาย ร่างนางจึงกลายเป็นหิน
 
สินสมุทรพานางสุวรรณมาลีไปอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ได้อาศัยเรือของโจรสลัดชาวอังกฤษชื่อสุหรั่ง ได้ฆ่าโจรสลัดสุหรั่งตายแล้วยึดเรือเป็นของตน แล่นออกไปตามหาพระอภัยมณีจนถึงเมืองรมจักร ได้พบศรีสุวรรณ แล้วก็ชวนกันออกตามหาพระอภัยมณี โดยศรีสุวรรณพาลูกสาวชื่ออรุณรัศมีไปด้วย
        อุศเรนโอรสกษัตริย์เมืองลังกา ซึ่งเป็นคู่หมั้นของนางสุวรรณมาลีรู้ว่านางหายไปในกลางทะเล ก็แล่นเรือออกตามหา จนไปพบพระอภัยมณี และสงสารรับลงเรือไปด้วย เรือของอุศเรนแล่นไปพบเรือของศรีสุวรรณและสินสมุทร พระอภัยมณีให้สินสมุทรคืนนางสุวรรณมาลีแก่อุศเรน แต่สินสมุทรรักนางสุวรรณมาลีเสมือนแม่แท้ๆ อยากให้เป็นคู่ครองของพระอภัยมณี จึงไม่ยอมคืนนางให้อุศเรน แม้ว่าพระอภัยมณีจะพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่สำเร็จ อุศเรนกับสินสมุทรจึงต่อสู้กัน อุศเรนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้รับบาดเจ็บที่ขา จึงรีบหนีกลับไปเมืองลังกา

สินสมุทรแล่นเรือต่อไปจนถึงเมืองผลึกอย่างปลอดภัย นางมณฑาพระมารดาของนางสุวรรณมาลีได้ยกเมืองผลึกให้พระอภัยมณีปกครอง พระอภัยมณีรักนางสุวรรณมาลีมากใคร่แต่งงานกับนาง แต่สุวรรณมาลีน้อยใจที่พระอภัยมณีสั่งให้สินสมุทรส่งนางคืนให้อุศเรน จึงหนีไปบวชชีเสีย          ทำให้ พระอภัยมณีกลัดกลุ้มใจมาก นางวาลีหญิงรูปชั่วตัวดำแต่ปัญญาล้ำเลิศและมีความรู้ดี จึงออกอุบายให้พระอภัยมณีได้แต่งงานกับนางสุวรรณมาลี ทางด้านนางเงือก ได้คลอดบุตรเป็นชาย โยคีตั้งชื่อให้ว่าสุดสาคร และช่วยเลี้ยงดูพร้อมทั้งสั่งสอนวิชาต่างๆ ให้ ครั้นอายุได้ ๓ ขวบ สุดสาครได้พบม้านิลมังกรแต่ไม่อาจจับตัวมาได้ โยคีจึงมอบมนต์วิเศษกับหวายเสกให้ไปจับตัวมาได้ ต่อมาสุดสาครก็ลาโยคีออกตามหาบิดา

โยคีได้มอบไม้เท้าวิเศษให้สำหรับป้องกันตัวและให้บวชเป็นโยคีด้วย สุดสาครขี่ม้านิลมังกรมาถึงเมืองจมกลางสมุทร ถูกผีดิบรุมทำร้ายก็ต่อสู้จนอ่อนแรง พอดีโยคีมาช่วยไว้ทัน สุดสาครก็เดินทางต่อไปพบชีเปลือย ถูกชีเปลือยหลอกไปผลักตกเหวแล้วริบม้านิลมังกรกับไม้เท้าวิเศษไป จากนั้นชีเปลีอยก็ขี่ม้านิลมังกรเข้าไปในเมือง         การะเวกทำตัวเป็นผู้วิเศษรักษาโรคให้ชาวบ้าน พอชีเปลือยลงจากหลังม้า ม้านิลมังกรก็หนีลงน้ำกลับไปหาสุดสาครทันที ทำให้ชีเปลือยเสียใจจนล้มป่วย โยคีตามมาช่วยสุดสาครขึ้นจากเหวได้ สุดสาครจึงขี่ม้านิลมังกรตามเข้าไปในเมืองการะเวก และแย่งไม้เท้าคืนมา พระสุริโยไทยกษัตริย์เมืองการะเวก นึกรักและเอ็นดูสุดสาครจึงเลี้ยงไว้เป็นโอรสบุญธรรม ได้เป็นเพื่อนเรียน เพื่อนเล่นกับนางเสาวคนธ์พระธิดาของพระองค์

ฝ่ายอุศเรนกลับไปรักษาตัวที่เมืองลังกาจนหายสนิทก็ยกทัพกลับมาตีเมืองผลึกด้วยความแค้น นางวาลีใช้กลศึกตีทัพเมืองลังกาแตกพ่ายไป เจ้าเมืองลังกาถูกธนูของนางวาลีแต่หนีไปได้ ส่วนอุศเรนถูกจับ นางวาลีใช้คารมพูดเยาะเย้ยให้อุศเรนแค้นใจจนกระอักเลือกตาย ปีศาจของอุศเรนอาฆาตแค้นมาก เข้าสิงร่างของนางวาลีจนถึงแก่ความตายไปด้วย เจ้าเมืองลังกาเห็นศพของโอรสที่พระอภัยมณีส่งมาให้ก็เสียใจจนสิ้นพระชนม์ นางละเวงวัณฬาน้องสาวของอุศเรนจึงได้ครอบครองเมืองลังกา นางมีตราราหูเป็นของวิเศษประจำตัว และได้พระสังฆราชเป็นที่ปรึกษา นางละเวงคิดจะทำสงครามกับเมืองผลึกเพื่อแก้แค้นแทนพระบิดาและพี่ชาย พระสังฆราชจึงแนะนำให้ส่งรูปวาดของนางที่ทำเสน่ห์เอาไว้พร้อมกับแนบจดหมายชักชวนให้กษัตริย์เมืองต่างๆ มาช่วยทำศึกตีเมืองผลึก กษัตริย์ ๙ เมืองจึงยกทัพมาประชิดเมืองผลึก พระอภัยมณีหลงใหลคลั่งไคล้รูปของนางละเวง จนไม่สนใจจะทำศึกกับกษัตริย์เมืองอื่นๆ นางสุวรรณมาลีร้อนใจมากรีบส่งทหารไปยังกรุงรัตนา เพื่อแจ้งข่าวให้ศรีสุวรรณกับสินสมุทรที่ไปเยี่ยมท้าวสุทัศน์กับนางปทุมเกสรทราบ จึงรีบยกทัพมาช่วยพร้อมกับสุดสาคร และสามารถปราบข้าศึกทั้ง ๙ ทัพแตกพ่ายไป
        ต่อมานางละเวงได้ทำเสน่ห์ให้พระอภัยมณีหลงรักและตามไปอยู่กับนางที่เมืองลังกา นอกจากนั้นยังสอนให้นางรำภาสะหรีน้องสาวบุญธรรมให้ทำเสน่ห์ศรีสุวรรณ ให้นางยุพาผกาทำเสน่ห์สินสมุทร และนางสุลาลีวันทำเสน่ห์สุดสาคร นางสุวรรณมาลีซึ่งมีลูกสาวฝาแฝดแล้วชื่อสร้อยสุวรรณ กับ     จันทร์สุดา รู้ข่าวว่าพระอภัยมณีไปหลงเสน่ห์นางละเวงก็ร้อนใจ รีบแจ้งข่าวไปยังเมืองรมจักรและเมืองการะเวก ส่วนตัวนางเองก็ยกทัพออกมารบด้วยความหึงหวง พราหมณ์โลกเชษฐ์ก็ ทำพิธีอัญเชิญโยคีจากเกาะแก้วพิสดารมาช่วย โยคีแสดงพระธรรมเทศนาโปรดกองทัพทั้งสองฝ่าย สงครามจึงยุติลง    นางละเวงจัดงานเลี้ยงฉลองสันติภาพอย่างเอิกเกริก
        เมื่อสงครามสงบลง พระอภัยมณีก็จัดพิธีแต่งงานให้หัสไชยกับนางสร้อยสุวรรณ    และ  นางจันทร์สุดาแล้วให้กลับไปครองเมืองการะเวก สุดสาครและนางเสาวคนธ์ให้ครองเมืองลังกา สินสมุทรกับนางอรุณรัศมีไปครองเมืองผลึก ส่วนพระอภัยมณียังคงอยู่ที่เมืองลังกา แต่ก็ไม่มีความสุขเนื่องจากมเหสีทั้งสองไม่ยอมให้พระอภัยมณียุ่งเกี่ยวฉันสามีภรรยา โดยนางสุวรรณมาลีอ้างว่าพระอภัยมณีจากนางละเวงไปนานควรอยู่กับนางละเวง แต่นางละเวงปฏิเสธเพราะเกรงว่าจะมีลูกนิสัยเลวทราม   แบบมังคลาอีก ทำให้พระอภัยมณีโกรธมเหสีทั้งสอง จึงตัดสินใจบวชเป็นฤาษีอยู่ที่เขาสิงคุตร์      นางสุวรรณมาลีและนางละเวงก็บวชชีแล้วตามไปปรนนิบัติด้วย ทั้งสามบำเพ็ญศีลอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข




รายการอ้างอิง